YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างเนื้อหาและเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก แต่หลายคนยังมีความเข้าใจแบบผิด ๆ ที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้ มาดูกันว่าความเข้าใจผิดเหล่านี้มีอะไรบ้าง
1. วิดีโอยาวและวิดีโอ Shorts ที่ไม่สร้างรายได้นั้น จะทำให้ระบบไม่แสดงหรือแนะนำวิดีโอนั้นให้คนดูได้เห็นจริงหรือไม่?
ไม่จริง : เพราะระบบการค้นหา (Search) และการแนะนำ(Recommendation) ของ YouTube ไม่สามารถมองเห็นสถานะการสร้างรายได้ของ Shorts แต่จะมุ่งเน้นไปที่คอนเทนต์ Shorts ที่คนดูต้องการชม โดยไม่สนใจว่าการสร้างรายได้ของ Shorts นั้นจะเป็นอย่างไร
2. วิดีโอ Shorts ที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีคนดูน้อยนั้นจะส่งผลให้คนดูวิดีโอแบบยาวน้อยตามไปด้วยจริงหรือไม่?
ไม่จริง : Shorts จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ส่งผลกระทบในทางลบกับระบบการแนะนำวิดีโอแบบยาวเลย และในทางกลับกัน Shorts ที่มีคนดูไม่มากนัก ก็อาจจะกลายเป็นช่องทางเลือกให้ผู้ชมใหม่ๆ ค้นพบช่องคุณ รวมทั้งวิดีโอแบบยาว ที่โชว์อยู่บนช่องคุณอยู่แล้วก็ได้
3. วิดีโอ Shorts ที่ไม่มีปก (Thumbnail) จะทำให้คนดูไม่กดเข้าไปชม และจะทำให้อัตราการคลิกต่อการมองเห็น (CTR: Click through rate) น้อย จริงหรือไม่?
ไม่จริง : เพราะยอดวิวส่วนใหญ่ของ Shorts มาจาก Shorts Feed ที่ไหลไปเรื่อยๆ โดยปกติ Thumbnail และอัตราการคลิกต่อการมองเห็นนั้น ไม่ได้ส่งผลเกี่ยวข้องเลย ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อวิดีโอหรือช่องที่อัปโหลดวิดีโอ Shorts ต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือก Thumbnail ของ Shorts ได้แล้ว ทั้งบน iOS และ Android
4. ต้องอัปโหลดวิดีโอใหม่ ถี่ ๆ ต่อสัปดาห์ ถึงจะประสบความสำเร็จ
การที่ช่องจะประสบความสำเร็จบน Youtube หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ในการอัปโหลด แต่ควรให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอ การทำตารางการผลิตและอัปโหลดวิดีโอที่เหมาะสมกับตนเอง
สิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือการอัปโหลดวิดีโอที่มากเกินไป อาจกระทบต่อคุณภาพของผลงาน และอาจจะส่งผลเสียต่อช่อง มากกว่าที่จะช่วยช่องให้เติบโต เพราะการที่โหลดวิดีโอที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คนดูและแฟนๆ รู้สึกผูกพัน และคอยติดตามผลงานและมีปฏิสัมพันธ์กับวิดีโอของคุณ
5. ในกรณีที่คนดูแจ้งว่าไม่เห็นมีการแจ้งเตือนหลังจากที่มีการอัปโหลดวิดีโอใหม่ เป็นเพราะว่า YouTube เข้าไปแก้ไขในระบบหลังบ้าน จริงหรือไม่?
ไม่จริง : ในระบบของ YouTube มีวิธีการตั้งค่าการแจ้งเตือนอยู่ 3 แบบ ได้แก่ แบบที่ปรับตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น แบบไม่เตือนเลย และแบบเตือนทั้งหมด
หากช่องของคุณเลือกวิธีการตั้งค่าแบบแรก คนดูจะได้รับการแจ้งเตือนสำหรับการอัปโหลดวิดีโอยาว Shorts และการสตรีมแบบสด บางรายการจากช่องคุณ โดยอิงจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของคนดูที่ประกอบไปด้วยประวัติและความถี่การเข้าชมวิดีโอจากช่องคุณ
หากตั้งค่าแบบที่ 3 คนดูจะได้รับการแจ้งเตือน เวลามีการอัปโหลดวิดีโอแบบยาว หรือการสตรีมแบบสดทั้งหมด รวมทั้งคนดูยังจะได้รับการเตือนเพื่อรับชม Shorts โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการติดตาม และประวัติการชมของพวกเขาอีกด้วย
6. ได้ยินมาว่า YouTube มีการลบผู้ติดตามออกจากช่องด้วยจริงหรือไม่? เพราะบางครั้งอยู่ดีๆ ยอดผู้ติดตามก็ลดลงเป็นจำนวนมาก
ไม่จริง : เพราะระบบหลังบ้านของ YouTube ไม่สามารถไปกดลบยอดผู้ติดตามออกจากช่องต่าง ๆ ได้ แต่ในกรณีของช่องที่ถูกสร้างมาเพื่อสแปม ใช้ปั๊มยอดวิว ปั๊มยอดผู้ติดตาม รวมทั้งช่องต่างๆ ที่ทำผิดกฎของ YouTube หรือ Google หากถูกปิดตัวลงยอดวิวหรือยอดผู้ติดตามช่องจะไม่รวมเข้ามาช่องใหม่ด้วย
ในกรณีที่ยอดผู้ติดตามหายไปเป็นจำนวนมากในวันเดียว อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ช่องเหล่านั้นถูกปิดตัวลงเพราะว่าเป็นสแปม หากช่องนั้นมีช่องที่เป็นสแปมมาติดตามไว้แล้ว ถูกปิดหลาย ๆ ช่องในวันเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดตัวเลขยอดผู้ติดตามติดลบเป็นจำนวนมากในวันเดียวด้วย
7. สำหรับคอนเทนต์ที่ต้องการใช้เพลงประกอบ หากเป็นเพลงที่มีลิขสิทธิ์จะสามารถนำมาตัดใช้ในความยาวไม่เกิน 7 วินาที อย่างเช่นท่อนฮุค จริงหรือไม่? แล้วเพลงอะไรที่ใช้ในวิดีโอได้บ้าง?
ไม่จริง : หากไม่มีการขอสิทธิ์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ของเพลงนั้น ๆ ช่องไม่สามารถใช้เพลงนั้นได้ โดยทางเจ้าของลิขสิทธิ์สามารถยื่นฟ้องทางกฎหมายกับ YouTube เพื่อนำวิดีโอนั้น ลงจากแพลตฟอร์มและถ้าช่องคุณโดนเแจ้งเกิน 3 ค รั้ง ใน 90 วัน ช่องอาจจะถูกปิดตัวลงได้เลย รวมทั้งหากคุณไปถ่ายทำวิดีโอตามสถานที่ต่างๆ แล้วบังเอิญสถานที่นั้นได้เปิดเพลง หรือแม้กระทั่งมี Sound Effect บางอย่างของเพลง เข้ามาอยู่ในวิดีโอของคุณก็ถือว่าใช้เพลงนั้นไม่ได้เช่นกัน
ส่วนเพลงที่สามารถนำมาใช้ได้ ก็คือเพลงที่อยู่ใน Library ของ YouTube เท่านั้น เพราะมีการขออนุญาตด้านลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ต้องมั่นใจว่าคุณมีสิทธิ์ทั้งหมดในตัววิดีโอของคุณก่อนที่จะอัปโหลดทุกครั้ง
8. ถ้าเนื้อหาคลิป ถูกจำกัดการโฆษณา (ติดเหลือง) จะมีคนดูน้อยลง ระบบจะไม่แสดงวิดีโอนั้นใน search & discovery
Self-certification คือ การรับรองหรือเรทตัววิดีโอว่าควรที่จะได้ไอคอนการสร้างรายได้สีอะไร เหมาะกับโฆษณาทั้งหมดหรือแค่บางประเภทเท่านั้น
ถ้าคุณเรตวิดีโอว่าเป็น Limited Ads หรือไอคอนสีเหลือง แล้วระบบจะทำให้วิดีโอคุณแสดงให้คนดูน้อยลงหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าจะสีเขียวหรือเหลืองก็แสดงให้เห็นเท่ากัน แต่บางวิดีโอที่ได้รับ Age-restricted เพราะว่ามีคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ และได้รับไอคอนสีเหลือง แบบนี้จะทำให้คนดูเห็นน้อยลง เพราะคนดูอายุต่ำกว่า 18 จะไม่สามารถเห็นได้
9. การที่ช่องได้รับการเตือน Copyright Strike หรือ Community Guideline การกดลบวิดีโอนั้นทิ้งไปจะช่วยให้ช่องนั้นพ้นความผิดหรือไม่
การลบคลิปทิ้ง ไม่ได้ลบความผิด ครีเอเตอร์จะมีตัวเลือกในการเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรมที่ให้ความรู้ต่างๆ เมื่อได้รับคำเตือนเรื่องการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน แหล่งข้อมูลเหล่านี้เป็นวิธีใหม่ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงการอัปโหลดเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายในอนาคต เมื่อครีเอเตอร์ผ่านหลักสูตร เราจะนำคำเตือนออกจากช่องหากครีเอเตอร์ไม่ละเมิดนโยบายเดียวกันในระยะเวลา 90 วัน
Rocket Skill
“ครบเครื่อง เรื่องระบบ รับจบเพื่อครีเอเตอร์”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กับ Product Specialist
Facebook : https://www.facebook.com/rocketskill.co
Website : www.rocketskill.co
Youtube :@RocketSkillOfficial