Social Media มีอิทธิพลอย่างสูงในยุคปัจจุบัน และแน่นอนว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่ใคร ๆ เลือกใช้ โดยเฉพาะแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสร้าง Fanpage แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เมื่อเทียบกับ Website ที่สามารถเผยแพร่คอนเทนต์ได้อย่างอิสระ แล้วแบรนด์ต่าง ๆ จะเลือกอะไรดีล่ะ? เพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น มาดูกันว่าระหว่าง Facebook Fanpage กับ Website มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วแบบไหนที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณ
1. ความมีอิสระ
Facebook – มีกฎและการตรวจสอบที่เข้มงวด หากทำผิดโดยไม่ตั้งใจ Facebook จะทำการบล็อก ปัญหาที่ตามมาคือ เงินลงทุนของคุณจะกลายเป็นศูนย์
Website – มีอิสระอย่างเต็มที่ สามารถปรับแต่งได้ในสไตล์ของเรา ยืดหยุ่นและสะท้อนความเป็นองค์กรได้มากกว่า
2. รูปแบบการจัดวาง
Facebook – Pattern ที่เหมือนกันหมด ทำให้เราคุ้นตาและจำง่าย หน้าเพจของคล้ายคลึงกับแบรนด์อื่น ๆ
Website – ทำให้สามารถปรับ Pattern ได้ตามใจชอบ และเป็นตัวเองได้มากที่สุด
3. ความน่าเชื่อถือ
Facebook – เป็นเหมือนกับ Community Online มีความเป็นไลฟ์สไตล์ เข้าถึงได้ง่ายและเป็นกันเอง
Website – สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้ดีกว่า มีการจดโดเมน ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าได้สูงว่าแบรนด์มีตัวตนจริง
4. การโต้ตอบ
Facebook – โต้ตอบผ่าน Comment และ Message และเป็น Realtime Messaging ทั้งจากตัว Admin ไปจนถึงการตั้งโปรแกรมตอบแชทอัตโนมัติ
Website – โต้ตอบผ่าน Email และแบบฟอร์มส่วนใหญ่ ดูเป็นทางการ น่าเชื่อถือ แต่อาจมีความล่าช้าสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการการตอบกลับแบบทันที
5. เนื้อหาการนำเสนอ
Facebook – เนื้อหาหรือคอนเทนต์ เผยแพร่เห็นได้อย่างรวดเร็ว แต่โพสต์เก่า ๆ จะถูกดันลงไป ทำให้เราต้องเลื่อนหา กรณีที่อยากกลับไปอ่านซ้ำ
Website – เนื้อหามีการจัดหมวดหมู่ อ่านง่าย ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็สามารถคลิกดูได้ทันที และต้องอาศัย SEO โดยมี Search Engine อย่าง Google เป็นตัวกลาง
สรุป
Facebook Fanpage สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ต้องการความเร็ว ใช้เวลาสร้างเพจไม่นาน ในขณะที่ Website อาจใช้เวลามากกว่า มีการสร้างโดเมน แต่ได้ความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
Rocket Skill เว็บไซต์สำเร็จรูป แพลตฟอร์มเว็บไซต์คอร์สออนไลน์
Knowledge website สร้างคอร์สออนไลน์